วันเสาร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ตัวเราและตัวเรา




สวัสดีเพื่อนๆทุกคน เรากลับมาอีกแล้ว มะลิรายงานตัวครับผม55555 วันนี้เราจะมาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการลดน้ำหนักของเราเอง


เผื่อมันจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครสักคน ลองไปอ่านไปดูกันเลยจ้า



 เราเป็นคนอ้วนตั้งแต่เด็ก คือตอนเด็กก็น่ารักแหละแต่พอโตมามันดันเป็นอุปสรรคในชีวิตเฉยเลย

 

น้ำหนักของเราตอนนั้นที่สูงที่สุดก็คือ 110กิโลกรัม ไม่รู้ไปกินอีท่าไหนนะ น้ำหนักถึงเข้าขั้นวิกฤตขนาดนั้นอ่ะ ตอนนั้นยอมรับนะว่าใช้ชีวิตยากอยู่แหละ


จนพี่ชายเรากลัวว่าเราจะเป็นโรคเบาหวานและก็โรคต่างๆมากมาย นางเลยให้เราออกกำลัง คือพี่ชายของเราอ่ะออกกำลังอยู่แล้วที่ฟิตเนสเฟิรส์ นางก็เลยชวนให้ไป


ต้องบอกก่อนว่าฟิตเนสไม่ได้จ่ายเรานะ5555 ฟิตเนสมันมีค่าใช้จ่ายในระดับหนึ่งแหละ(ค่ารายเดือน)


 แต่เราว่าถ้ามันแลกกับสุขภาพ และความสนุกที่พร้อมให้เราได้ลองเราว่าคุ้ม และนี่คือภาพวันแรกที่เข้าไปเล่น


 ตอนแรกนี่คือไม่อยากเล่นเลยทำกิจกรรมอะไรไม่ไหวซักอย่าง ทดสอบสมรรถภาพก็ต่ำกว่าเกณฑ์ทุกข้อ ตอนนั้นคือท้อแล้วพึ่งจะเข้าไปเล่นไม่กี่วันเองนะ



แต่ด้วยความอยากเอาชนะตัวเองเลยกัดฟันและบอกกับตัวเองว่า เราต้องทำได้ และเราก็เริ่มเล่นอย่างจริงจังและควบคุมอาหารตอนนั้นคือนับแคลลอรี่เลยแหละจริงๆ



ตอนนั้นเล่นจริงจังมากอ่ะคือปั้นจักรยานบางที4-5ชม. คือที่ต้องปั้นจักรยานอย่างเดียวเพราะเล่นอะไรไม่ไหวเลย กระโดดเยอะก็เจ็บขา ก็เลยเลือกวิธีนี้ สภาพเวลาเล่นเสร็จก็จะประมานนี้


ตอนที่เล่นแบบหนักๆอ่ะ อาทิตย์หนึ่งก็ลงเป็นโลเลยนะ พอเล่นมาเกือบเดือน น้ำหนักลงมา7-8กิโล เลยเริ่มมีกำลังใจมากขึ้น แต่ก็ยังอ้วนอยู่555


 คราวนี้เริ่มเล่นกิจกรรมที่หลากหลายมากขึ้นล่ะ ลองต่อยมวย ยกเวท และก็เต้น เข้าไปที่แรกคือยืนงงในดงคนเถื่อนมากๆ เขาเล่นกันแบบเก่งสุด



เทรนเนอร์แต่ละคนก็นำสนุกและก็ใส่ใจสมาชิกมากๆคอยแนะนำ และก็ช่วยกระตุ้นให้เราก้าวข้ามขีดกำจัดของเรา


พอเล่นไปประมาน6เดือน ก็เริ่มเห็นผลแล้วนะ เริ่มเห็นชัดเจนแล้วว่า ผอมลงจริงๆ โอ๊ยตอนนั้นตื่นเต้นและปริ่มมากๆ ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะมาถึงจุดนี้ได้


ตอนนี้ก็เล่นมาปีกว่าแล้ว เริ่มกล้าถ่ายรูปมากขึ้นแล้วเมื่อก่อนคือไม่ชอบถ่ายรูปตัวเองเลยจริง กลัวตัวเอง555


ถามว่าตอนนี้มันดีแล้วไหม เราว่ามันก็ยังไม่ดีเท่าทีควรนะ แต่ถ้าเทียบกับเมื่อก่อนถือว่าเราประสบความสำเร็จในการออกกำลังกายนะ 


หาเสื้อผ้าใส่ง่ายขึ้น รู้สึกร่างกายแข็งแรงมากขึ้นไม่ป่วยง่ายเหมือนก่อน สามารถทำอะไรได้อย่างคนปกติแล้ว


ตอนนี้น้ำหนักอยู่ที่80กิโล รู้สึกขอบคุณพี่ชายที่แนะนำสิ่งที่ดีแบบนี้ให้ และขอบคุณแรงบันดาลใจดีๆ ที่คอยเป็นกำลังใจและคอยเป็นแรงผลักดันให้เรามาตลอด


เราหวังว่าเรื่องของเราในวันนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครที่คิดว่าตนเองทำไม่ได้


 อย่าท้อถ้าเรายังไม่ได้เริ่มอย่างจริงจัง พยายามให้เต็มก่อน ถ้ามันไม่ได้เราก็ยังภูมิใจว่าเราทำเต็มที่แล้วจริงๆ

แฮร่


#อ้วนได้ลดได้ไม่โกง😅😋
#ฟิวเจอร์ต้องลุกเป็นไฟ🔥🔥
#แอคตีวิตี้เทรนเนอร์ไม่อิจฉากันนะจ้ะ🐻🐻

มามาวิจารณ์กัน

สวัสดีเพื่อนๆทุกคน กลับมาพบกับมะลิน้อยอีกแล้วนะเบื่อกันหรือยัง? วันนี้เราจะมาวิจารณ์บทความกัน แต่ก่อนอื่นต้อวบอกกันก่อนว่ามันเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคลนะ ยังไงก็ลองไปอ่านกันเลย บทความมีดังนี้
1.yingmymemory.(ภูเก็ตทะเลสวยน้ำใส)
2.chomposrd.(รีวิวเกาะสีชัง ไป-กลับ ทริปสบายๆ)
3.missbatza.(รีวิวท่องเที่ยวหาดนางรำ)



เริ่มจากบทความเเรกกันเลยนะ yingmymemory.อย่างจะบอกว่าชอบบทความนี้มากๆเลย คือการเดินทางบอกละเอียกและหลากหลายวิธีมากๆเหมาะสำหรับคนที่อยากเดินทางแต่ไม่ค่อยมีประสบการณ์ในการเดินทาง แต่โดยส่วนตัวขอแนะนำให้เพิ่มรูปภาพให้มากกว่านี้จะดีมากๆเลยทีเดียว 



ไปต่อกันเลยกับบทความที่2 ของ chomposrd. ต้องขอชื่นชมบทความนี้ก่อนเลยว่ารูปภาพสวยมากๆ แสดงให้เห็นถึง ทัศนียภาพของเกาะได้อย่างชัดเจนมากๆ ทำให้มีความรู้สึกอยากไปมากๆ แต่ส่วนตัวอยากให้เพิ่มเกี่ยวกับพวกร้านอาหารหรือแหล่งที่ซื้อขายของกินและราคาอาหารบนเกาะสีชัง เผื่อคนที่อยากจะไปจะได้คำนวณเงินที่ต้องเตรียมไปได้อย่างถูกต้อง 





มาถึงบทความสุดท้ายกันแล้วนะ จะเป็นของใครมาดูกันเลย missbatza. เป็บทความหนึ่งที่ดีมากๆอีกบทความ เนื้อหาและรายละเอียดครบมากจริงๆแถมรูปภาพก็เยอะมากๆเหมือนกับว่าเราได้ไปเที่ยวกับผู้เขียนจริงๆเลย แต่ถ้ามีรูปอาหารและรูปภาพประกอบมากกว่านี้จะถือว่าเป็น
บทความ ที่น่าสนใจมากๆเลยทีเดียว



จบกันไปแล้วนะสำหรับการวิจารณ์บทความในวันนี้ จริงๆโดยสว่นตัวเราคิดว่าทุกๆคนเขียนบทความได้ดีมากๆเขียนในแบบของตัวเองน่าสนใจและน่าติดตามมากๆเลย ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้เขียนทุกคนและทำบทความดีๆแบบนี้ออกมาเรื่อยๆให้เราติดตามแบบนี้



#บทความน่าอ่าน😇😇
#ความคิดเห็นส่วนบุคคลนะ😅😅
#ขอบคุณที่ติดตามผิดพลาดตรงไหนขออภัย ณ ที่นี้🙏🙏

คณะในฝัน

คณะในฝัน?💃💃


                         สวัสดีเพื่อนๆทุกคน วันนี้เราจะพาทุกคนเข้าไปในความฝันเรื่องการเรียนต่อของเรา เพื่อนๆรู้ไหมว่าเราอยากเข้าคณะอะไร ลองทายกันสิ........ คณะที่เราอยากเข้า ก็คือ คณะวิทยาศาสตร์  ภาควิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา 


               วิทยาศาสตร์การกีฬา เป็นศาสตร์ที่ว่าด้วยความรู้ที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าถึงผลของการมีส่วนร่วมในการเล่นกีฬาหรือการออกกำลังกายในกิจกรรมต่างๆ โดยประยุกต์ใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์ร่วมกับเทคนิคเฉพาะทาง เพื่อพัฒนาศักยภาพร่างกายของนักกีฬา ให้สามารถเล่นกีฬาได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันนี้เป็นคำอธิบายตามเว็บไซต์ทั่วไป 



อยากรู้จังว่ามีใครสนใจคณะเดียวกับเราไหม คณะนี้ก็เรียนเกี่ยวกับการออกกำลังกาย อาหาร อะไรต่างๆ มากมาย เดี๋ยวเราจะพาไปดูหลักสูตรที่เรียนกันเลย ว่ากว่าจะจบคณะนี้ต้องเรียนอะไรกันบ้าง มันอาจจะเยอะหน่อยๆนะ อย่าพึ่งเบื่อกันนะจ้ะ


1. กายวิภาพศาสตร์ คือ ศาสตร์ที่ให้ความรู้รายละเอียดเกี่ยวกับโครงสร้างของร่างกาย ที่ประกอบขึ้นเป็นรูปร่างสัดส่วนของร่างกายของแต่ละบุคคล



2. สรีรวิทยา คือ ศาสตร์ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการทำงานหรือการทำหน้าที่ของอวัยวะระบบต่างๆของร่างกายซึ่งสามารถกระตุ้นและพัฒนาศักยภาพใหเดีขึ้น ได้ด้วยระบบการฝึกที่ถูกต้องและเหมาะสมกับประเภทกีฬาและศักยภาพของแต่ละบุคคล


3. ชีวกลศาสตร์ คือ ศาสตร์ที่ว่าด้วยการทำงานของกล้ามเนื้อ กระดูก เอ็น และข้อต่อ เพื่อนำไปสู่การใช้แรงในการเคลื่อนไหวหรือปฏิบัติ


4. ทุกษะและการฦึกซ้อมกีฬา คือ ศาสตร์ที่ให้ความรู้หลักการในการกำหนดความหนักเบา รูปแบบวิธีการฝึก เข้าไว้ในโปรแกรมการฝึกซ้อมได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสมของแต่ละบุคคล



5. โภชนาการทางการกีฬา คือ ศาสตร์ที่ให้ความรู้และรายละเอียดเกี่ยวกับคุณค่าของอาหารแต่ละชนิด และรู้จักเลือกรับปนะทานอาหารให้ถูกต้องและได้ถูกสัดส่วน



6. จิตวิทยาการกีฬา คือ ศาสตร์ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการคิด การควบคุมทักษะการเคลื่อนไหวและทักษะกีฬารวมถึงการตัดสินใจในแต่ละสถานการณ์ของการฝึกซ้อมและการแข่งขันได้อย่างถูกต้อง


7. เวชศาสตร์การกีฬา คือ ศาสตร์ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกัน การบำบัดรักษา และการฟื้นฟูสภาพร่างกาย



8. เทคโนโลยีทางการกีฬา คือ ศาสตร์ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับประดิษฐ์การใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ช่วยสนับสนันในการพัฒนาส่งเสริมตลอดจนการแก้ไขปัญหาต่างๆในเรื่องของเทคโนโลยีทางการกีฬา



การเรียนของคณะนี้ก็จะมีประมานนี้แหละ เรียนไปเรียนมาทำไมรู้สึกคล้ายๆหมอยังไงไม่รู้ แต่หน้าที่และการรับผิดชอบไม่เท่าหมอจะบอกให้ เพื่อนๆรู้ไหมว่าเมื่อเราจบจากคณะนี้แล้ว คนส่วนใหญ่ทำอาชีพอะไรกัน เดี๋ยวเราจะพาไปดู ตามมาๆ



เรียนจบด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา สามารถทำงานที่ต้องการผู้เชี่ยวชาญ เช่น นักสรีรวิทยาการกีฬา นักจิตวิทยาการกีฬา โค้ช นักวิชาการด้ารสุขภาพ นักโภชนาการกีฬา ผู้แนะนำการออกกำลังภายในฟิตเนส ครู อาจารย์ ทำธุรกิจด้ารสุขภาพ เช่น ฟิตเนส สปา เป็นต้น





วันนี้เนื้อหาจัดเต็มมากๆ เบื่อกันหรือยังเอยยยยย ไหนๆขอเสียงคนอยากอ่านต่อหน่อยเร็ว ส่วนเรื่องมหาลัย เราเชื่อว่าเพื่อนๆหลายคนอยากทำแบบเรา คือการไปเรียนมหาลัยต่างจังหวัดเพราะมันสงบและการแข่งขันไม่สูงเท่าในกทม.แต่เราติดพ่อแม่อ่ะ เราเลยเลือกเรียนใน

กทม.ดีกว่า



เราอยากทำอาชีพเป็นเทรนเนอร์(อยู่ตามสถานออกกำลังต่างๆ )เราคิดว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่สนุกและ

สร้างสีสันมากจริงๆ หน้าที่หลักของอาชีพนี้ก็คือการช่วยเสริมสร้างและเปลี่ยนแปลงตัวเองกับคนที่ต้องการให้มีศักยภาพที่สูงขึ้น และแถมเรายังมีสุขภาพที่แข็งแรงอยู่ตลอดอีกด้วยถือว่าดีงามจริงๆมีใครสนใจไหม เราอยากรู้



#ผิดพลาดประการใดกราบขอโทษด้วยนะจ้ะ 🙏🙏
#ขอบคุณรูปที่สวยงามจาก Google😘😘
#แอตติวีตี้เทรนเนอร์ไม่อิจฉากันนะจ้ะ🐻🐻






วันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

รีวิวท่องเที่ยว

รีวิว ชิลๆกับสองวัดหนึ่งกินในกรุงเทพ

สวัสดีเพื่อนมนุษย์ทุกคน วันนี้เราจะมาแนะนำสถานทีท่องเที่ยวทางศาสนาที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นชาวจีนหรือฝรั่งตาน้ำข้าวทั้งหลาย โอเคเพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เรามาเริ่มกันเลย

วัดพระศรีรัตนศาสดารามวัดพระแก้ว
วัดแรก คือ วัดพระศรีรัตนศาสดารามหรือที่รู้จักกันในชื่อของวัดพระแก้วอยู่ในเขตพระราชวัง เป็นวัดที่ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวต่างชาติต่างต้องการที่จะเห็นความงดงามที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของความเป็นไทย วัดพระแก้วถือเป็นสิ่งที่ทำให้ต่างชาติรู้จักประเทศไทยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องประเพณีขนบธรรมเนียบต่างๆ เพราะทางสำนักราชวังได้กำหนดข้อระเบียบขึ้นเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยและเหมาะสมในการเข้าชมพระราชวังและวัดพระแก้ว


ในวันนั้นที่เราได้ไป เป็นวันที่โชคร้ายมากจริงๆเพราะในเขตพระราชวังมีงานบางอย่างที่ห้ามไม่ให้ประชาชนเข้าไปและพระราชวังจะเปิดอีกในเวลา บ่ายสามโมง ซึ่งเรารอไม่ได้แล้ว ในตอนนั้นก็ได้แต่ยืนดูความสวยงามของพระราชวังและวัดพระแก้วอยู่ข้างนอกอย่างเดียวเลย แต่ขนาดเห็นข้างนอกยังสวยอย่างบอกไม่ถูกเลย เหมือนกันว่าเราหลุดเข้าไปในสมัยอยุธยาตอนนั้น พื้นที่ของพระราชวังและวัดพระแก้วกว้างใหญ่มาก

เราว่าถ้าเดินครบหนึ่งรอบนี่น้ำหนักต้องลงแน่ๆเลย และบริเวณหน้าประตูทางเข้าใหญ่นั้นก็จะมีทหารม้า ไม่แน่ใจว่าจะใช้ทหารรักษาพระองค์หรือเปล่านะ แต่งตัวเต็มยศนั่งบนหลังม้า คอยถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยว สามารถไปถ่ายไว้อวดเพื่อนได้เลยไม่เสียค่าใช่จ่ายใดๆและใกล้ๆนั้นน่าจะอยู่ทางขวามือ เป็นศาลหลักเมืองกรุงเทพ ที่มีอายุมายาวนานสร้างขึ้นมาพร้อมกับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เลยนะ สร้างขึ้นเพื่อเป็นศิริมงคลแก่บ้านเมือง และสามารถเข้าไปกราบไหว้ได้ตามศรัทธาเลยจ้ะ



ไปต่อกันที่วัดที่สองที่เราไปกันเลยจ้ะ วัดนี้อยู่ใกล้ๆกับวัดพระแก้ว เดินมาเรื่อยๆก็ถึงนะแต่ก็เหนื่อยอยู่แหละ และรวมกับแดดอันร้อนแรงของเมืองไทยแล้วคือการอาบแดดดีๆนี่เองจ้ะ ไหนๆลองทายกันสิว่าเป็นวัดอะไร โอเคเนอะวัดที่เราไปกันก็คือ






วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของวัดนี้ก็คือ พระพุทธไสยาสน์หรือที่นิยมเรียกกันว่า พระนอนวัดโพธิ์ เป็นพระพุทธรูปปางโปรดอสุรินทราหูเป็นศิลปะสมัยสุโขทัย และพระนอนวัดโพธิ์นี้เป็นพระพุทธรูปที่สำคัญและเก่าแก่สมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล่าเจ้าอยู่หัว


 และนอกจากนั้นยังเป็นวัดประจำรัชกาลอีกด้วนเพื่อนๆรู้กันไหมว่าวัดนี้เป็นวัดประจำรัชกาลของพระองค์ใด เฉลยนะ วัดพระเชตุพลเป็นวัดประจำรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่หนึ่ง เป็นวัดที่คนเยอะมากไม่แพ้กันเลยจริงๆ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต่างมากราบไหว้ขอพนเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง เพื่อนรู้ไหมว่าเกือบไม่ได้เข้าไปแล้วเพราะอะไรน่ะหรอหาทางเข้าไม่เจอ อันนี้ต้องระวังด้วยนะ ถามคนแถวนั้นดูก็ได้ว่าทางเข้าอยู่ทางไหนจะได้ไม่เสียเวลาเดิน พอเข้าไปในวัด เพื่อไปไหว้พระนอน เจ้าหน้าที่จะแจกถุงพลาสติกใส่รองเท้าและให้หิ้วเข้าไปด้วยเพื่อป้องกันรองเท้าหายจ้ะ เป็นอะไรที่แปลกและงงมากเพราะอยู่บ้านเราเข้าวัดไม่เห็นจะต้องเอารองเท้าใส่ถุงเลย อันนี้ก็ถือเป็นสีสันในการเดินทางนะ จริงๆ


ในบริเวณของวัดจะเต็มไปด้วยพระพุทธรูปมากมายและเจดีย์อันงดงาม และช่วงนั้นเป็นช่วงละครบุพเพสันนิวาดเนอะก็จะเจอคนแต่งชุดไทยไปถ่ายรูปกันมากโขเลยแหละ ชาวต่างชาติทั้งหลายต่างงงกันเป็นไก่ตาแตกเลยจ้ะ ว่าเกิดอะไรขึ้นนี่แฟชั่นของคนไทยหรือ การไปวัดในครั้งนี้เหมือนเราย้อนกลับไปฝนสมัยอยุธยาก็ว่าได้ ถือว่าเด็ดจริงๆ



ละเมื่อเข้าวัดทำบุญขอพร ทำให้จิตใจสงบขึ้นแล้ว เราก็ไปต่อกันที่ ของหวานๆอร่อยๆ กันเลยเนอะ ร้านที่อยากแนะนำที่อยู่ไม่ใกล้จากบริเวณนั้นก็คือร้านมนต์นมสดเป็นร้านขนมปังปิ้งที่ราดด้วยใส่ต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็นหน้าสังขยา หน้าเนยข้าวโพด หรือจะเป็นหน้าช็อคโกแลตก็มีนะ และยังมีอีกหลายหน้ามากที่รอคนไปชิมอยุ๋นะจ้ะ

 และร้านนี้ยังมีเครื่องดื่มเย็นประเภทชากาแฟที่กินตัดหวานกับขนมปังเข้ากันมากจริงๆ ส่วนเรื่องของราคาร้านนี้ไม่ผิดหวังนะเพราะ ราคาไม่สูงอยู่ในช่วงของราคาที่ย้อมเยาเลยแหละขนมปังแผ่นละประมาณ ยี่สิบห้าถึงสามสิบ แต่ถ้าเปรียบกับรสชาติแล้วต่างกันสุดๆ ร้านนี้อยู่ตรงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เดินเข้าซอยมาหน่อยก็เจอล่ะอยู๋ใกล้ๆกับวัดสุทัศน์หรือเสาชิงช้านั่นเอง


ส่วนการเดินทาง ของเรานะ
เรานั่งรถ ปอ ยี่สิบเก้า จากรังสิตไปลงอนุสาวรีย์ และต่อ รถเมล์สาย ห้าเก้า ไปลงสนามหลวง และนอกนั้นเราก็ใช้วิธีการเดินทั้งหมดเลย

เป็นการชมบรรยากาศของใจกลางกรุงเทพไปในตัว และยังได้บริหารกล้ามเนื้อขาด้วยนะตัว ราคาค่ารถทั้งหมดไปเกิน หนึ่งร้อยบาทแน่นอน

แฮร์รี่ พอตเตอร์

แฮร์รี่ พอตเตอร์ เรื่องย่อ แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ ในวันเกิดครบรอบอายุ 11 ปีของแฮร์รี่ รูเบอัส แฮกริด ได้เผยอดีตของแฮร์รี่ว่า...